กลับมาแล้วกับหนังภาคต่อที่สร้างจากการ์ตูนของ DC Comics ใน Red ที่ในภาคต่อนี้ได้นักแสดงจากภาคแรกอย่าง บรูซ วิลลิส, แมร์รี่ หลุยส์ พาร์คเกอร์, จอห์น มัคโควิช ร่วมด้วย แอนโธนี่ ฮ๊อปกินส์ มาแจม จากการกำกับของ ดีน พาริซ๊อต
เรื่องราวของ แฟรงค์ โมเซส อดีตสุดยอดซีไอเอปฏิบัติการณ์ลับ ที่สาบานกับทุกคนแล้วว่าจะวางมือจริงๆ แต่แล้วเขาอดใจไม่ไหวกลับไปร่วมทีมกับเพื่อนเก่าอีกครั้ง ในภารกิจตามหาตัวจุดนิวเคลียร์แบบพกพา ที่กลุ่มคนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นกองทัพต่างชาติ ผู้ก่อการร้าย หรือแม้กระทั่งคนในรัฐบาลของตัวเอง ต้องการครอบครองเพื่อที่แสวงหาประโยชน์จากมัน แฟรงค์ และทีมของเขาได้เดินทางไปทั้งกรุงปารีส, ลอนดอน และมอสโคว์ และใช้ความสามารถพิเศษและประสบการณ์อันเก๋าในการช่วยโลกด้วย
โดยในภาคแรกของ Red ต้องยอมรับว่าส่วนตัวผมค่อนข้างผิดหวังในระดับนึง เนื่องจากคาดหวังที่จะได้แอ็คชั่นอะไรที่มันตูมตามมากกว่านี่ เพราะฉะนั้นในภาคต่อของหนังชุดนี้ ความคาดหวังจึงเริ่มลดมา และแค่คิดว่าได้เห็นลุงๆ ป้าๆ มาบู๊กันพอเห็นพอควรก็น่าจะได้สมหวังแล้ว แต่ปรากฏว่าหนังภาคต่อชุดนี้กลับสร้างความเซอร์ไพรส์พอสมควร เพราะเอาเข้าจริงๆแล้ว Red 2 ถือว่าเป็นการนำเอาสูตรการดำเนินเรื่อง และ ทุกสิ่งทุกอย่าง ในภาคแรกมาอัพเกรด ยกระดับ ให้ทุกอย่างมันดูเร็วขึ้น และ มันส์ขึ้น โดยเฉพาะในการดำเนินเรื่องที่เน้นการตัดต่อแบบฉับไว ไม่อืดเอื่อยแบบในภาคแรก
นอกจากนั้นในฉากแอ็คชั่น การได้ ลีบยองฮุน มาร่วมแจมทีม ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในการสร้างฉากแอ็คชั่นที่เน้นขายลีลาความโม้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะในช่วงท้ายที่นำเอาเพลง Given Up ของ Linkin Park มาผสมผสานในฉากแอ็คชั่นเจ๋งๆ และรวมถึงในอีกหลายฉากที่ได้ดนตรีประกอบหนังมาช่วยไว้นั้น ก็สามารถทำให้ฉากแอ็คชั่นเตะต่อย ที่ดูเหมือนจะธรรมดา กลายเป็นความโม้ที่มันส์พอสมควร
แต่น่าเสียดายในทางกลับกัน เมื่อความสนุกของหนังได้เพิ่มขึ้น คุณภาพของตัวหนังก็กลับลดลงในด้านของตัวบท และ ประเด็นแยกย่อย ไม่ว่าจะเป็นชีวิตคู่ของ แฟรงค์ ร่วมไปถึง รูปคดี ของตัวหนังที่อาจจะออกมาค่อนข้างหลวมๆ และมีช่องโหว่เยอะไปหน่อย ถ้าหากให้เทียบกับการเดินทางตามหาตัวคนร้ายในภาคแรกแล้วละก็
ซึ่งด้านนักแสดงหลักในภาคนี้ทั้ง บรูซ วิลลิส ,แมร์รี่ หลุยส์ พาร์คเกอร์, จอห์น มัลโควิช, เฮเลน มิเรน และ แอนโธนี่ ฮ๊อปกินส์ ก็ต่างถือว่าสร้างสีสันได้พองาม โดยในรายหลังที่สามารถแสดงบทบาทป่วนๆ ต๊องๆ ได้มีลูกเล่นจนทำเอาลืมบทบาทของ ดร.ฮันนิบาล ไปในขณะนึง เช่นเดียวกับ บรูซ วิลลิส และ จอห์น มัลโควิช ที่มีมุกตลกสอดแทรก ให้เข้าขากันได้ดีไม่แพ้กับ ภาคแรก รวมไปถึง แมร์รี่ หลุยส์ พาร์คเกอร์ ที่มีบทบาทมากกว่าเดิม แถมยังได้มีการปล่อยมุกฮา เสริมความน่ารักเล็กๆให้กับตัวหนังอีกด้วย
โดยสรุปแล้วผมคิดว่า Red 2 เป็นภาคต่อที่สนุกกว่าภาคแรกพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นด้านของ ฉากแอ็คชั่น หรือ การดำเนินเรื่อง ที่ดูแล้วไม่น่าเบื่อ และ ไม่อืดอาดเท่าภาคแรก ถึงแม้ว่าจะเต็มไปด้วย ช่องโหว่ ที่เยอะเกินไปก็ตาม
เรื่องนี้ผมให้ 7/10 ครับ
โดย ลูกอบรสเขียด
The post Red 2 – แก่ไม่แคร์ แค่ได้ไฝว้ appeared first on Mthai Movie.